“  บันทึกความทรงจำ...แสงธรรมดนตรีศักดิ์สิทธิ์  ”
บทเพลงแสงธรรมในแต่ละยุคสมัยมีความเป็นมาอย่างไร และมีกว่าจะมาถึงเพลงอัลบัมแสงธรรมในปัจจุบันนั้น จะมีเรื่องราวใดที่น่าประทับใจกันบ้าง
วันนี้ผมขอนำทุกท่านย้อนวันวานกลับไปสู่ยุคแรกของการบันทึกเสียง ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้น
และทำให้ชื่อ “ แสงธรรม ” นี้
ได้ดำเนินงานรับใช้ด้านดนตรีศักดิ์สิทธิ์ให้กับพระศาสนจักอย่างยาวนานกว่า 36 ปี
แน่นอนว่ามีการพัฒนาขึ้นในทุกๆด้าน ทั้งด้านคุณภาพ และเทคโนโลยีอันทันสมัย ซึ่ง ณ สถานที่แห่งนี้
มีทั้งความสุข ความทุกข์ และความยากลำบาก เคล้ากันไป
แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยจางหายไป นั่นคือพระหรรษทานจากพระเจ้า
ที่มอบให้แก่บรรดาสามเณรทุกคน
สำหรับชื่อที่เขียนเรื่องราวในอดีตนี้
บราเดอร์หลายคนได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์แล้ว แต่เพื่อให้ผู้อ่านบทความนี้ทุกท่าน ได้สัมผัสถึงช่วงเวลานั้นจริงๆ
ผู้เขียนจึงของใช้คำนำหน้าทุกคนว่า บราเดอร์
เพื่อบอกเล่าถึงเรื่องราวอันน่าประทับใจนี้
แสงธรรมชุดที่ 1 (1978) จำนวน 29 เพลง
กลุ่มสามเณรที่สนใจและรับผิดชอบเกี่ยวกับเพลงศักดิ์สิทธิ์
และการซ้อมขับร้อง อันประกอบด้วย บร.ไชโย 
กิจสกุล, บร.วิทยา  แก้วแหวน, บร.กรรฐ์  กรองทอง, บร.สุพรรณ  กิจเจา, บร.สุทศ  ประมวลพร้อม 
ได้ร่วมมือกันจัดทำเทปแสงธรรมชุดที่ 1 ขึ้น โดยได้รับเครื่องเทป AKAI  X-165D  จากคุณพ่อยัง
ดังโตแนล มีวิธีการอัดเทป คือ
พากันเข้าไปอัดเสียงร้องและเล่นดนตรีสดกันในห้องน้ำ(น่าจะเป็นห้องพักเณร ตึก 3)
เพื่อให้ได้เสียงที่ก้อง และไม่มีเสียงรบกวนจากบรรยากาศภายนอก
ด้วยความพยายามของเหล่าสามเณรอันนี้เอง ที่ได้จุดประกายความคิดริเริ่ม
ของคุณพ่อสำราญ  วงศ์เสงี่ยม
ได้ขอทุนจากต่างประเทศเพื่อสร้างห้องอัดเสียงในเวลาต่อมา
แสงธรรมชุดที่ 2 (1979) จำนวน 29 เพลง
แสงธรรม
ชุด 2 อัดเสียงที่ห้องอัดซาเลเซียน ลักษณะดนตรี ใช้กีต้าร์โปร่ง 3 ตัว โดย บร.สุทศ  ประมวลพร้อม, บร.ประเวศ  พันธุมจินดา, บร.สุรชาติ  แก้วเสนีย์ 
ใช้เวลาหลังอาหารเย็นจนถึงประมาณสามทุ่ม
แสงธรรมชุดที่ 3 (1980)  
จำนวน 25 เพลง
ห้องอัดเสียงของแสงธรรมเอง
ถือกำเนิดขึ้นโดยการริเริ่มของ คพ.สำราญ 
วงศ์เสงี่ยม
ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะอนุกรรมการดนตรีศักดิ์สิทธิ์ระดับชาติอยู่ในขณะนั้น  เทปชุดนี้จัดทำขึ้น โดยยกเครื่องเทป 4 แทรค
ไปอัดเสียงนักร้องแสงธรรมทุกคนในวัดบ้านเณร ในเวลาซ้อมขับร้องวันพุธเย็น
ผู้รับผิดชอบห้องอัดเสียง คือ บร.วีรพันธ์ 
แก้วมังกร และมี บร.ไพศาล 
อานามวัฒน์ เป็นผู้อำนวยเพลง  บร.วีรชัย
บุญประสงค์ เป็นผู้เล่นออร์แกน 
บร.สุรชาติ  แก้วเสนีย์
เล่นเบสกีตาร์
แสงธรรมชุดที่ 4 (1982)  
จำนวน 27 เพลง
เริ่มใช้วง String
combo โดยเสริม Piano เข้ามาเล่นพร้อมกัน
ใช้เทป 4 แทรค และบันทึกเสียงร้องภายหลังเมื่อทำการบันทึกเสียงดนตรีเสร็จแล้ว
แสงธรรมชุดที่ 5 (1983)  
จำนวน 18 เพลง
ดำเนินการบันทึกเสียงโดย
บร.อนุรักษ์  ประจงกิจ, บร.สุพจน์  ฤกษ์สุจริต(ผู้ดูแลห้องอัดเสียง)
แสงธรรมชุดที่ 6 (1984)    จำนวน
16 เพลง
ลักษณะดนตรีคล้ายคลึงกับชุดที่
4 ผู้ดูแลการผลิต คือ บร.สุพจน์ 
ฤกษ์สุจริต(ผู้ดูแลห้องอัดเสียง)
                แสงธรรมชุดที่ 7 (1985)   จำนวน 14 เพลง
บันทึกดนตรีโดยอัดเสียงทีละชิ้น
นักดนตรีได้แก่ บร.อรรถพร 
วรศิลป์เล่นออร์แกน-เปียโน-กีต้าร์, บร.สุรชาติ  แก้วเสนีย์ เล่นเบสกีต้าร์-ออร์แกน
ส่วนนักร้องได้แก่ บร.สุรชาติ  แก้วเสนีย์,
บร.ประสิทธิ์  เครือตาแก้ว,
บร.เกรียงศักดิ์  แซ่โง้ว, บร.สุทธิ  ปุคละนันท์ และมีเพลงของ บร.อนุรักษ์  ประจงกิจ ที่บันทึกเสียงที่ห้องอัด D.C.S. ของ อาจารย์เรวัติ  จันตะแสง จำนวน 2 เพลง
แสงธรรมชุดที่ 8 (1989)  
จำนวน 14 เพลง
รวบรวมบทเพลง
ทั้งเก่าและใหม่ จำนวน 14 เพลง
แสงธรรมชุดที่ 9 (1993)  
จำนวน 12 เพลง
ในช่วงเวลานี้
ได้พยายามปรับปรุงห้องบันทึกเสียง และนำบทเพลงจากหนังสือบรรณาการที่ยังไม่เคยทำเทป
ร่วมกับบทเพลงที่ คพ.โมลิ่ง เคยเรียบเรียงเสียงประสานไว้ และมีเพลงใหม่ 3 เพลง ของ
บร.สุพัฒน์ คือเพลง ข้าแต่พระเจ้า, พลังชีวิต, พระคริสตกายา(โปรยดอกไม้)
สำหรับนักร้องนั้นมีซิสเตอร์จากคณะธิดาพระราชินีมาเรียผู้นิรมล
และคณะนักขับร้องกลุ่มเซซีลีอา วัดนักบุญเปโตร เข้ามาช่วย  เพลงชุดนี้บันทึกเสียงโดย บร.อดิศักดิ์  กิจบุญชู เริ่มดำเนินการ ตั้งแต่ต้นปีการอบรม
1994 โดยใช้ช่วงเวลาหลังอาหารค่ำของทุกวัน เมื่อการบันทึกเสียงเสร็จ จึงได้ติดต่อ
คุณสังวรณ์  ดวงคำ ให้ช่วยมิกซ์ดาวน์ให้
โดยยกเครื่องเทป 8 แทรคไปมิกซ์ดาวน์ที่ห้องอัดกรุงเทพฯ  
แสงธรรมชุดที่ 10 (1995)   จำนวน
10 เพลง
ใช้เวลาดำเนินงานตั้งแต่เดือน
ตุลาคม 94 โดยซื้อเครื่อง KORG 01 w/fd  มาใช้เป็นเครื่องดนตรีหลักในการเรียบเรียงดนตรี
เริ่มบันทึกเสียงร้องราวๆเดือน มิถุนายน 1995 และออกเป็น Demo ในงานบวชสังฆานุกรประจำปี 1995 
มิกซ์ดาวน์ครั้งสุดท้ายที่ D.C.S.
ราวกลางเดือน สิงหาคม 1995
โปรดติดตามตอนต่อไปครั้งหน้า
กับดนตรีศักดิ์สิทธิ์ในการก้าวเข้าสู่ยุคปัจจุบัน
